สวัสดีค่ะ วันนี้พี่ยูริ Xhange English กลับมาพร้อมเทคนิคดีๆ ในการทำข้อสอบ TOEIC Listening หรือข้อสอบ TOEIC ส่วนของการฟังกันอีกแล้ว โดยครั้งนี้พี่จะพามาเจาะลึกใน Part ที่ 3 และ 4 กันแบบเน้นๆ ว่าแต่ละ Part มีหน้าตาและลักษณะข้อสอบแบบไหน พร้อมเรียนรู้เทคนิค Hack ฟังยังไงให้ไม่พลาด และได้คะแนนตามเป้า!
TOEIC Listening จะแบ่งออกเป็น 4 Part โดยแต่ละ Part จะมีการเปิดไฟล์เสียงผ่านลำโพงในห้องสอบค่ะ เมื่อไฟล์เสียงจบ เราจะต้องอ่านคำถามและตอบคำถามโดยอิงจากสิ่งที่ได้ฟังไปนั่นเอง โดยในข้อสอบ Listening มีข้อสอบรวม 100 ข้อ และมีเวลาในการทำข้อสอบ 45 นาที
ในบทความที่แล้วพี่ยูริอธิบายข้อสอบ TOEIC Listening Part 1 -2 ไปแล้ว วันนี้พี่ยูริจะขอพาทุกคนฝึกทำข้อสอบ Part 3-4 กันบ้างนะคะ โดยข้อสอบ Part 3 – 4 จะแบ่งเป็น Part ละ 39 ข้อ และ 30 ข้อ ตามลำดับค่ะ ถ้าไม่อยากพลาดคะแนนการฟังในช่วงนาทีสุดท้าย ต้องอ่านบทความนี้ให้จบนะคะ
ชำแหละข้อสอบ TOEIC Listening Part 3: Short Conversations
- ในข้อสอบพาร์ทนี้ จะมีโจทย์และคำตอบให้เราอ่านก่อนฟังเสียง (ไม่เหมือนกับพาร์ท 1-2 ที่ไม่มีอะไรให้อ่านเลย) แต่บทสนทนาที่ได้ฟังจะยาวขึ้นกว่าเดิม
- เสียงที่ได้ฟังจะเป็นคนคุยกัน 2-3 คน โดย 1 บทสนทนา ผู้สอบต้องฟังเพื่อใช้ตอบคำถาม 3 ข้อ
- บางข้ออาจมีรูปให้ดูและถามคําถามจากรูปนั้น
- มีโจทย์แบบถามอ้างอิงคำพูดจากบทสนทนา (เช่น ถามว่าทำไม A ถึงพูดประโยคนั้น)
- ข้อควรระวัง! ในพาร์ทนี้จะมีตัวเลือก 4 ข้อ (A, B, C, D) ไม่ใช่ 3 ข้อ เหมือนพาร์ท 2 แล้ว
- มีทั้งหมด 39 ข้อ (จากเดิม 30 ข้อ)
ตัวอย่างข้อสอบ Part 3 : Short Conversations
Questions 41 through 43 refer to the following conversation.
ผู้สอบจะต้องเลือกตอบจากตัวเลือกจาก (A) (B) (C) (D) ที่ตรงกับไฟล์เสียงบทสนทนาที่ได้ยินมากที่สุด
เทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC Listening Part 3
1. ก่อนไฟล์เสียงขึ้น ให้สังเกตคำแรกของประโยคคำถามทั้ง 3 ข้อไว้ และเลือกฟังเพื่อตอบคำถามตามคำเหล่านั้น
เนื่องจากข้อสอบ TOEIC ในปัจจุบัน มีกฏว่าห้ามขีดเขียนลงในข้อสอบ เราจึงไม่สามารถวงกลมคำแรกในโจทย์ได้ อีกวิธีที่สามารถทำได้ก็คือ ให้ผู้สอบใช้นิ้วจิ้มไปที่คำแรก เช่น ถ้าเป็น when แสดงว่า เราต้องตั้งใจฟังจับใจความช่วงที่ผู้พูดคุยถึงเรื่องเวลา
ทริคดีๆ จากครูพี่ยูริ XChange เจ้าของคะแนนเต็ม 990
ในพาร์ตนี้ คำถามที่พบบ่อยเลยคือ “What are the listeners/ audiences asked to do?“ ผู้ฟังถูกขอให้ทำอะไร? เป็นคำถามที่ต้องใช้การ “Imply หรือ การตีความ” นั่นเอง ดังนั้นต้องตั้งใจฟังดี ๆ นะคะ
2. ใช้เวลาในระหว่างที่ไฟล์เสียงอ่านคำถามทั้ง 3 ข้อ ตอบคำถามให้ครบ
เมื่อไฟล์เสียงบทสนทนาจบลง ข้อสอบจะเริ่มอ่านคำถามทั้ง 3 ข้อต่อทันที เช่น “Number 41. What will the man do?” “Number 42…” “Number 43 …” ดังนั้น ในระหว่างที่ข้อสอบกำลังอ่านคำถามอยู่ ให้ผู้สอบใช้เวลาประมาณ 20-30 วินาทีตรงนี้ ตอบคำถามให้เสร็จครบทั้ง 3 ข้อโดยไม่ต้องรอให้ข้อสอบอ่านคำถามข้อสุดท้ายจบ วิธีนี้จะทำให้เรามีเวลาเหลือไปอ่านคำถามและเตรียมพร้อมสำหรับข้อสอบชุดต่อไปนั่นเอง (Number 44-46)
การไม่เผื่อเวลาอ่านคำถามของชุดถัดไป
ทำให้เราไม่สามารถเลือกฟังเพื่อหาส่วนข้อมูลที่ถูกต้องได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้สอบแรกๆ เจอตลอด
เรียนรู้ครบทั้ง 2 เทคนิคแล้ว
ถึงเวลาลองใช้เทคนิคกับตัวอย่างข้อสอบจริงกัน
Script จากไฟล์เสียงที่ผู้สอบได้ยินจะเป็นดังนี้ (ในตัวข้อสอบไม่มี script ให้นะคะ)
ข้อ 41 ถาม when คือ เรื่องเวลา ดังนั้น เวลาฟัง เราต้องจับให้ได้ว่า เขาพูดถึงเวลาไหนบ้าง และเวลาไหนเป็นเวลาที่ผู้ชายคนนี้จะพบลูกค้า ซึ่งเราก็จับได้ว่ามีเวลาอยู่ 2 ช่วง คือ
ข้อ 41 ถาม when คือ เรื่องเวลา ดังนั้น เวลาฟัง เราต้องจับให้ได้ว่า เขาพูดถึงเวลาไหนบ้าง และเวลาไหนเป็นเวลาที่ผู้ชายคนนี้จะพบ
จากบทสนทนา Mr. Milller บอกว่ารถจะซ่อมเสร็จตอน 10 โมงรถ ดังนั้น เขาจะว่างเข้ามาเจอลูกค้าได้ตอน 11 โมง และโจทย์ข้อนี้ถามว่า When will the man probably start seeing clients tomorrow? (ผู้ชายจะสามารถมาเจอลูกค้าวันพรุ่งนี้ได้ตอนกี่โมง?) ดังนั้นข้อที่ถูกต้องก็คือ (C) At 11 A.M. หรือ ตอน 11 โมงนั่นเองค่ะ
ชำแหละข้อสอบ TOEIC Listening Part 4: Short Talks
- ในข้อสอบพาร์ทนี้ จะมีโจทย์และคำตอบให้เราอ่านก่อนฟังเสียง ค่อนข้างเหมือน Part 3 แต่ความแตกต่างที่ผู้สอบจะเจอก็คือ จะมีผู้พูดแค่ 1 คน ประกาศข้อมูลยาว ๆ ไปเลย ไม่มีการโต้ตอบจากบุคคลที่สอง
- 1 Talk ผู้สอบต้องฟังเพื่อตอบคำถาม 3 ข้อ
- ประกาศที่ได้ยินมักจะเป็น ประกาศบนเครื่องบิน หรือ ประกาศในงานสัมมนา เป็นต้น
- บางข้ออาจมีรูปให้ดูและถามคําถามจากรูปนั้น
- มีโจทย์แบบถามอ้างอิงคำพูดจากบทสนทนา (เช่น ถามว่าทำไม A ถึงพูดประโยคนั้น)
- มีทั้งหมด 30 ข้อ
ตัวอย่างข้อสอบ Part 4: Short Talks
🔊 Questions 71 through 73 refer to the following talk.
เทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC Listening Part 4
จำคำแรกของประโยคคำถามไว้ให้ดี เพราะมันจะเป็นตัวที่บอกใบ้คำตอบให้แก่เรา! (เราเรียกเทคนิคนี้ทางวิชาการว่า Active Listening) และในข้อสอบพาร์ทนี้ คำถามที่มักจะเจอมีอยู่ 3 ประเภท นั่นก็คือ…
1. สังเกต wh-/ how คำแรกในคำถาม
ก่อนไฟล์เสียงจะเริ่มเล่น ให้ผู้สอบแปลประโยคคำถามทั้ง 3 ข้อไว้ก่อน โดยสังเกตจากคำ wh-/ how คำแรก และเลือกฟังเพื่อตอบคำถามตามนั้น
ได้แก่ who, what, when, where, why,
how, how much, how many, how long เป็นต้น
เมื่อเจอคำถามเหล่านี้ให้คิดคำตอบไว้เลย เช่น ถ้าถาม who ตอบคน, ถาม what time ตอบเวลา หรือ ถาม how much ตอบเป็นจำนวน
2. ตอบคำถามให้ทัน ก่อนไฟล์เสียงจบ!
เทคนิคต่อมา คือ การใช้เวลาในระหว่างที่ไฟล์เสียงอ่านคำถามทั้ง 3 ข้อ ตอบคำถามให้ครบ
เหมือน Part 3 เลยค่ะ เมื่อไฟล์เสียงที่พูดจบลง เราจะมีเวลา “ฟรี” ตอนที่ไฟล์เสียงอ่านคำถามให้ 3 ข้อ ผู้สอบทุกคน “ต้อง” ทำข้อสอบให้เสร็จพร้อมไฟล์เสียงพูดจบ
เมื่อข้อสอบเริ่มอ่านคำถาม เช่น “Number 71. What will the woman do?” “Number 72…” “Number 73 …” ให้ผู้สอบใช้เวลาประมาณ 20-30 วินาทีตรงนี้ ไปอ่านคำถามชุดต่อไป (Number 74-76) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับข้อสอบชุดต่อไปทันทีค่ะ
เรียนรู้เทคนิคการทำข้อสอบ Part 2 เรียบร้อยแล้ว มาลองใช้เทคนิคกับตัวอย่างข้อสอบจริงกันค่ะ
Script จากไฟล์เสียงที่ผู้สอบได้ยินจะเป็นดังนี้
(ในตัวข้อสอบไม่มี script ให้นะคะ)
“Welcome to our annual conference. Before we get started with this morning’s program, we need to go over some changes to the schedule. Our first group speaker will begin her presentation thirty minutes later than the original time. She will now speak at nine-fifteen, instead of at eight forty-five, in our main meeting room.
At twelve o’clock, lunch will be served in the Red River Room, while the Blue Mountain Room will be used for dinner.
This evening, as listed in your pre-printed schedules, you may choose to attend another presentation or see a play. We have also just added another activity for your entertainment, dancing at Club Central. Music will be performed by the popular local band Little Joe and the Wildcats. Tickets may be purchased from the registration table during lunch.“
จากข้อ 71 ถาม what time คือ เรื่องเวลา ดังนั้น เวลาฟังเราต้องจับให้ได้ว่า เขาพูดถึงเวลาไหนบ้าง และเวลาไหนเป็นเวลาที่ผู้พูดของกลุ่มแรกขึ้นพูด อย่าลืมนะคะว่า ต้องฟังดี ๆ ว่ามีการบวก/ลบ เวลาไหม (ซึ่งจากที่พี่ยูริไปสอบมา มีเกือบทุกครั้งค่ะ)
“Our first group speaker will begin her presentation thirty minutes later than the original time. She will now speak at nine-fifteen, instead of at eight forty-five, in our main meeting room.”
ดังนั้นข้อนี้ คำตอบที่ถูกต้องคือข้อ (B) The stamps are in the cabinet. ซึ่งหมายความว่า แสตมป์อยู่ในตู้เก็บของ นั่นเองเราจะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเวลาจริงๆ ด้วยค่ะ มีการประกาศว่าผู้พูดกลุ่มแรกจะพูดช้ากว่าเวลาเดิมในตารางไป 30 นาที ซึ่งจะพูดตอน nine-fifteen (9.15 น.) ดังนั้น ข้อนี้คำตอบที่ถูกต้องคือข้อ B. 9.15 นั่นเองค่ะ
และนี่ก็คือเทคนิคในพาร์ทการฟังหรือ Listening part ของข้อสอบ TOEIC ค่ะ ผู้ที่กำลังเตรียมตัวสอบอยู่สามารถนำไปปรับใช้กันได้นะคะ รับรองว่าช่วยให้คะแนนพุ่งแน่นอน!
ใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบทั้งหมด
สามารถอ่านรายละเอียดการสอบ TOEIC แบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่เลย
คอร์สเรียน TOEIC แนะนำ!
จะสอบพาร์ตไหนก็ผ่านฉลุย! ติวแบบตรงจุด เลือกคอร์ส TOEIC ได้ตามคะแนนที่ต้องการได้ทันที
เริ่มนับหนึ่งจากพื้นฐาน เริ่มสอบอย่างเข้าใจ
ปรับทุกทักษะ เส้นทางเพิ่มคะแนน เรียนได้ทุกพื้นฐาน
ติวเข้มทุกทักษะ สูตรเร่งฟันคะแนน
ติดอาวุธทุกกลยุทธ์สอบ ตะลุยคลังข้อสอบจริง! กว่า 1,000 ข้อ
หากต้องการทดลองเรียนก่อนสมัคร สามารถติดต่อแอดมินผ่านทาง Line ด้านล่างได้เลยค่ะ