เทคนิคสอบ TOEIC Listening Part 1-2

TOEIC ติวฟรี! รวมเทคนิคทำโจทย์ Listening Part 1-2

สวัสดีค่ะ พี่ยูริ XChange English เองนะคะ วันนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักข้อสอบ & ติว TOEIC กันแบบฟรี ๆ ในส่วนของ Listening Part โดยเฉพาะ (ข้อสอบส่วนของการฟัง) ว่าเราจะต้องเจอคำถามรูปแบบใดบ้าง พร้อมสอนเทคนิคการฟังและตอบคำถามแบบรวดเร็วและแม่นยำ!

ก่อนอื่น ใครยังสงสัยว่าข้อสอบ TOEIC คืออะไร? มีทั้งหมดกี่พาร์ต? สามารถดูข้อมูลการสอบโทอิคทั้งหมดจาก >> ที่นี่ << ได้เลยค่ะ

TOEIC Listening Part คือ ข้อสอบพาร์ตที่ 1-4 โดยเราจะได้ฟังไฟล์เสียงผ่านลำโพงในห้องสอบค่ะ เมื่อฟังจบแล้ว เราจะต้องอ่านคำถามและตอบคำถามโดยอิงจากสิ่งที่ได้ฟังไปนั่นเอง โดยใน Listening Part นี้ จะมี 100 ข้อ และใช้เวลา 45 นาทีในการทำข้อสอบค่ะ

และอีกเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกันก็คือ ข้อปฏิบัติในการสอบ TOEIC ฉบับอัปเดทล่าสุด มีกฏห้ามขีดเขียนลงในตัวข้อสอบโดยเด็ดขาด! ดังนั้น เราต้องหาตัวช่วยที่จะทำให้คะแนนพาร์ตฟัง ปังและไม่พลาด! วันนี้พี่ยูริจะขอพาทุกคนฝึกทำข้อสอบ Part 1-2 กันก่อนนะคะ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Part เก็บคะแนนที่ง่ายที่สุดในข้อสอบเลยก็ว่าได้ รับรองว่าเทคนิคของพี่จะช่วยให้ทุกคนกวาดคะแนนส่วนนี้ไปได้แบบง่ายๆ เลย!



ตัวอย่างข้อสอบ TOEIC Part 1: Photographs

  • ในข้อสอบส่วนนี้ โจทย์จะมีแค่รูปภาพมาให้ โดยจะ “ไม่มี” คำถามหรือคำตอบอยู่ในข้อสอบเลย โดยผู้จัดสอบจะเปิดไฟล์เสียงที่พูดประโยคตัวเลือก (A) (B) (C) (D) มาให้และเราต้องเลือกตัวเลือกที่บรรยายรูปภาพนั้น ๆ ได้ตรงที่สุด
  • มีทั้งหมด 6 ข้อ (จากเดิม 10 ข้อ)

ตัวอย่างข้อสอบ Part 1 : Photographs

ตัวอย่าง Script จากไฟล์เสียงที่ผู้สอบได้ยิน (แต่ในตัวข้อสอบจะไม่มี Script ให้นะคะ)

ผู้สอบจะต้องเลือกตอบจากตัวเลือกจาก (A) (B) (C) (D) ที่บรรยายได้ตรงกับรูปภาพมากที่สุด

เทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC Part 1: Photographs

1. เริ่มเก็บรายละเอียดจากรูปทันที ตั้งแต่ผู้สอบให้เราฟังคำสั่ง

ผู้สอบควรเปิดไปดูรูปก่อนทันที ไม่ต้องรอให้เทปอ่านคำสั่งและตัวอย่างข้อสอบจนจบ ระหว่างนั้นให้เราตอบในใจว่า
1. คนทำอะไรอยู่
2. มีสิ่งของอะไรในรูปภาพบ้าง

ตัวอย่างจากรูปตัวอย่างที่ 1

เมื่อดูผ่าน ๆ ก่อน เราจะได้คำตอบในใจก่อนว่า “มีคนยืนพูดที่โพเดียม”

2. Verb คือสิ่งสำคัญที่สุด

หลังจากเก็บรายละเอียดแล้ว ให้เราคำนึงถึงคำกริยา (Verb) ว่าคนในรูปกำลังทำอะไร (หรือถ้าเป็นรูปสิ่งของก็ให้นึกต่อว่าสิ่งของอยู่ตรงไหน)

ระวัง! โจทย์มักจะหลอกโดยพูดถึงคำนามที่มักปรากฏในรูป

เช่น ในตัวอย่างจะมีคำว่า podium, desk, microphone ดังนั้นถ้าเราเลือกฟังเฉพาะคำนามอาจงงได้ พยายามฟัง verb ให้ออก ซึ่งมักจะอยู่ในรูปของ Present Progressive หรือ V.ing นั่นเอง

ตัวอย่างข้อสอบ TOEIC Part 2: Question-Response

ในพาร์ตนี้ คนที่ยังไม่เคยสอบ TOEIC มาก่อนอาจจะตกใจได้! เพราะส่วนนี้จะมีแต่เลขข้อเปล่า ๆ ไม่มีคำถามและคำตอบในข้อสอบเลย

ข้อสอบจะเป็นลักษณะของการตอบบทสนทนาสั้น ๆ 1 ประโยค คำถามจะมาจากไฟล์เสียง เมื่อถามเสร็จเสียงจะหยุด และให้เราเลือกคำตอบ (A), (B) หรือ (C) ค่ะ

ตัวอย่างข้อสอบ Part 2: Question-Response

  • บทสนทนามักจะเกี่ยวกับเรื่องที่ทำงาน (work), การซื้อของ (shopping), ท่องเที่ยว (travel) หรือ ความบันเทิง (entertainment) เป็นต้น
  • มีทั้งหมด 25 ข้อ (จากเดิม 30 ข้อ)
  • ข้อควรระวัง!
    พาร์ตนี้จะมีตัวเลือกแค่ 3 ข้อ (ไม่ใช่ 4 ข้อ เหมือนพาร์ตอื่น ๆ)
    ดังนั้น อย่าเผลอเลือกข้อ (D) เด็ดขาด!

เทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC Part 2: Question-Response

ตั้งใจฟัง และจำคำแรกของประโยคคำถามไว้

ขอแนะนำให้ผู้สอบจำคำแรกของประโยคคำถามไว้ เพราะจะเป็นตัวที่บอกใบ้คำตอบให้แก่เรา! (เราเรียกเทคนิคนี้ทางวิชาการว่า Active Listening) และในข้อสอบพาร์ตนี้ คำถามที่มักจะเจอมีอยู่ 3 ประเภท นั่นก็คือ…

1. Wh- question

(who, what, when, where, why, how, how much, how many, how long etc.) 

เมื่อเจอคำถามเหล่านี้ให้คิดคำตอบไว้เลย เช่น ถ้าถาม who ตอบคน, ถาม what time ตอบเวลา หรือ ถาม how much ตอบเป็นจำนวน

2. Yes/No Question

ประโยคคําถามที่ขึ้นต้นด้วยกริยา ซึ่งบ่อยครั้งคำตอบจะเป็นประโยคที่ไม่มี yes หรือ no ก็ได้

เช่น “Haven’t you filled out the application yet?” (คุณกรอกใบสมัครแล้วหรือยัง?)

แต่คำตอบที่ถูกต้องคือ “I’ve been too busy.” (ช่วงนี้ฉันยุ่งมากเลย) ซึ่งเราอนุมานได้เลยว่า เขายังไม่ได้กรอกใบสมัครแน่ ๆ เพราะเขายุ่งมาก จะเห็นว่าข้อนี้เป็น Yes/No Question ที่คำตอบไม่จำเป็นต้องตอบ yes/no เสมอไป

3. ประโยคที่เป็น Statement (ไม่ใช่คำถาม)

เช่น  A: This pen doesn’t work. 

A บอกมาว่า “ปากกาด้ามนี้เขียนไม่ติดนะ” เราสามารถอนุมานได้ว่า A ต้องการใช้ปากกาด้ามอื่นแทนด้ามที่เขียนไม่ติด บทสนทนาต่อไปก็ต้องพูดเรื่องปากกาเช่น “Here, use mine.” (นี่ เอาของฉันไปใช้สิ) 

เรียนรู้เทคนิคการทำข้อสอบ Part 2 เรียบร้อยแล้ว
มาลองใช้เทคนิคกับตัวอย่างข้อสอบจริงกันค่ะ

ตัวอย่าง Script จากไฟล์เสียงที่ผู้สอบได้ยิน (แต่ในตัวข้อสอบจะไม่มี Script ให้นะคะ)

จากเทคนิคด้านบน เราฟังและรู้ว่าคำถามถาม where คือ สถานที่ เขาถามว่า “เก็บแสตมป์ไว้ที่ไหน?” เราต้องตอบข้อที่บอกสถานที่ที่เก็บแสตมป์

ในข้อสอบปัจจุบันมักจะมีตัวหลอกที่ต้องระวังเลย นั่นคือ คำที่เกี่ยวข้องกัน เช่น stamp – post office – letter ซึ่งมักจะนำมาหลอกเรา และคำเดียวกันเลยแต่ความหมายเปลี่ยน เช่น stamps (n.) ในคำถามแปลว่า แสตมป์ ซึ่งจะคล้ายกับ stamped ในข้อ (C) ที่เป็น passive voice แปลว่า ถูกประทับตรา แต่ในข้อ (C) ไม่ได้เกี่ยวกับสถานที่ จึงยังไม่ใช่ข้อที่ถูก

ดังนั้นข้อนี้ คำตอบที่ถูกต้องคือข้อ (B) The stamps are in the cabinet. ซึ่งหมายความว่า แสตมป์อยู่ในตู้เก็บของ นั่นเองค่ะ

ใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบทั้งหมด
สามารถอ่านรายละเอียดการสอบ TOEIC แบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่เลย

หรือถ้าใครชอบดูวิดีโอ พี่ยูริก็มีคลิปวิดีโออธิบายข้อสอบรูปแบบใหม่ล่าสุดมาฝากทุกคนด้วยนะคะ
สามารถดูและมาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้เลย พี่ยูริเป็นกำลังใจให้นะคะ 🙂

คอร์สเรียน TOEIC แนะนำ!

จะสอบพาร์ตไหนก็ผ่านฉลุย! ติวแบบตรงจุด เลือกคอร์ส TOEIC ได้ตามคะแนนที่ต้องการได้ทันที

เริ่มนับหนึ่งจากพื้นฐาน เริ่มสอบอย่างเข้าใจ

ปรับทุกทักษะ เส้นทางเพิ่มคะแนน เรียนได้ทุกพื้นฐาน

ติวเข้มทุกทักษะ สูตรเร่งฟันคะแนน

ติดอาวุธทุกกลยุทธ์สอบ ตะลุยคลังข้อสอบจริง! กว่า 1,000 ข้อ

หากต้องการทดลองเรียนก่อนสมัคร สามารถติดต่อแอดมินผ่านทาง Line ด้านล่างได้เลยค่ะ

CONTACT US!