วิธีเตรียมสอบ TOEIC ไม่มีพื้นฐาน พร้อมเทคนิคอัพคะแนนได้จริง!คนิคอ

วิธีเตรียมตัวสอบ TOEIC ด้วยตัวเอง พร้อมเทคนิคอัพคะแนนได้จริง!

วิธีเตรียมตัวสอบ TOEIC ด้วยตัวเอง พร้อมเทคนิคอัพคะแนนได้จริง!

สำหรับบัณฑิตจบใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่แวดวงการทำงาน หรือคนที่กำลังหางานอยู่ตอนนี้ หนึ่งในข้อกำหนดนอกเหนือจากเกรดเฉลี่ยสวย ๆ ที่บริษัทส่วนใหญ่ต่างใส่ใน Job Description คือความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดยตัวคะแนนที่สามารถวัดผลภาษาอังกฤษ และสามารถนำไปประกอบการยื่นสมัครงานเพื่อเพิ่มโอกาสการพิจารณาได้นั้นก็ คือ ‘คะแนน TOEIC’ นั่นเอง

โดยมาตรฐานการรับเข้าทำงานของแต่ละบริษัทก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าหากอยากมั่นใจว่าเราจะสามารถคว้างาน ที่ฝันไว้ได้ชัวร์ ๆ ก็ควรทำคะแนนให้ได้สูง ๆ เพื่อให้เรามีโอกาสมากขึ้น และเป็นที่ต้องตาต้องใจของเหล่า Recruiter ทั้งหลายไว้จะดีกว่า ก่อนอื่นเรามารู้จักตัวข้อสอบคร่าว ๆ กันก่อนเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้มากขึ้น


ข้อสอบโทอิค (TOEIC) คืออะไร?

การสอบโทอิค TOEIC หรือที่ย่อมาจาก Test of English for International Communication คือ การสอบวัดระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษโดยทั่วไป สำหรับคนทำงานในตลาดแรงงานโดยเฉพาะ ผู้ที่สอบอาจจะเป็นคนที่กำลังมองหางาน หรือนักศึกษาที่กำลังจะก้าวเข้าตลาดงาน โดยข้อสอบ TOEIC นี้จะวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการอ่านและฟัง (Reading & Listening) เป็นหลัก แม้ว่าภายหลังได้มีการทำข้อสอบที่วัดการพูดและเขียน (Speaking & Writing) ออกมาด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็ยังยึดผลการสอบของ Reading & Listening เป็นหลัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ข้อสอบจะประกอบด้วย

  • คำถาม 200 ข้อ
  • Listening 100 ข้อ
  • Reading 100 ข้อ

คะแนนเต็ม 990 คะแนน มีเวลาในการทำข้อสอบให้ทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง


มาเริ่มดูวิธีการเตรียมตัวสอบ TOEIC กัน

การเตรียมตัวสอบ TOEIC นั้นไม่ต่างจากการเตรียมสอบข้อสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษรูปแบบอื่น ๆ ที่เรารู้จักกัน ความยากง่าย รวมถึงความท้าทายอาจจะมากน้อยแตกต่างกันไปตามพื้นฐานความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคล โดยสำหรับกลุ่มที่พื้นฐานภาษาอังกฤษยังไม่แน่น ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงการสอบวัดความรู้นี้ไปได้ เพราะท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดแรงงาน ผู้สมัครนับหมื่นนับแสนคนแย่งชิงงานที่มีในตลาด วันนี้เราเลยรวบรวมวิธีจัดการตัวเองเมื่อต้อง เตรียมตัวสอบ TOEIC มาแนะนำให้ได้อ่านกัน ซึ่งถ้าหากผู้อ่านนำไปลองปรับใช้ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ XChange English รับรองว่าคะแนน TOEIC ดี ๆ นั้นไม่เกินความสามารถของคุณแน่นอน

1. รู้เขารู้เรารุ่งแน่นอน

ก่อนอื่นให้เราเริ่มต้นจากการยอมรับ และเข้าใจว่าตัวเองมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับไหน เพื่อที่เราจะสามารถรับรู้ได้ว่าเราต้องฝึกฝนตรงส่วนไหนเป็นพิเศษ โดยวิธีที่ดีที่สุดคือการเริ่มทำข้อสอบ TOEIC ซึ่งสามารถลองทำได้ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือสามารถเข้าไปลองทำข้อสอบ TOEIC ได้ที่แบบทดสอบเสมือนจริง จาก XChange English และเมื่อเราได้คะแนนจากการทดลองทำข้อสอบแล้ว เราจะสามารถเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าควรเริ่มเตรียมตัวจากจุดไหนและควรเน้นติวเนื้อหาส่วนไหนเป็นพิเศษ อีกทั้ง การได้เห็นหน้าตาของข้อสอบก่อนสอบจริง จะทำให้เราเข้าใจวิธีการทำข้อสอบมากขึ้นด้วย

2. ฝึกทักษะการฟังบ่อยๆ จากบทสนทนา

หนึ่งสิ่งที่ยากสำหรับหลาย ๆ คนคือการฟัง เพราะเราอาจจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ฉะนั้นให้เริ่มต้นด้วยการดูหนัง ฟังเพลง พร้อมเปิดซับภาษาอังกฤษไปด้วย เพื่อให้เราสามารถเทียบคำ กับการออกเสียงไปพร้อม ๆ กันได้ และในตัวข้อสอบ TOEIC เองโดยส่วนมากข้อสอบจะออกเป็นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน ซึ่งเมื่อเราเปิดใจฟังภาษาอังกฤษบ่อย ๆ ในท้ายที่สุดจะช่วยให้เราจับจุดได้ถูกว่าผู้พูดต้องการสื่อความหมายว่าอะไร สถานการณ์คืออะไร อยู่ในบริบทไหน โดยไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกคำ จากนั้นจึงค่อยไปเริ่มฝึกจากตัวข้อสอบจริง ๆ ที่สามารถหาได้เพิ่มเติมตามหนังสือหรือเว็บไซต์รวมคลังข้อสอบ

3. ฝึกการจัดการกับทั้งข้อสอบ และตัวเอง

บริหารจัดการเวลาอย่างชาญฉลาด


ข้อสอบ 200 ข้อ กับเวลาเพียง 2 ชั่วโมง หรือ ตกข้อละ 36 วินาทีเท่านั้น เราจึงต้องรู้ที่จะจัดการบริหารเวลาให้ดีเพราะแม้แต่คนที่คล่องภาษาอังกฤษหลาย ๆ คนยังตกม้าตายทำไม่ทันมานักต่อนัก ฉะนั้นการจัดการเวลาจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้อาศัยเพียงแค่ความเก่งอย่างเดียว แต่รวมถึงการเข้าใจ Anatomy ของตัวข้อสอบ พร้อมกับการวิเคราะห์ตัวข้อสอบหาทางลัดของแต่ละส่วน

ซึ่งทริคง่าย ๆ ในวันนี้ที่เราจะนำเสนอคือ เมื่อถึงพาร์ทของ Reading ที่จะประกอบไปด้วยส่วนของไวยากรณ์กับ Long Passage Reading ให้เราเริ่มทำในส่วนของการอ่านส่วนหลังก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเริ่มจากข้อที่ 151 จนถึงข้อที่ 200 เพราะเนื้อหาและคำถามส่วนใหญ่จะยาวจำเป็นต้องใช้สมาธิในการอ่านมากกว่า หากทำทีหลังเมื่อมีเวลาเหลือน้อยอาจทำให้ไม่มีสมาธิจนทำไม่เสร็จ หรืออ่านไม่ละเอียดจนตอบผิดได้นั้นเอง

อย่ามูฟออนเป็นวงกลม เสีย 1 คะแนนย่อมดีกว่าเสีย 2 คะแนน


ในพาร์ทการฟังนั้นต้องใช้สมาธิอย่างมากในการจับใจความจากสิ่งที่ได้ยิน บางส่วนอาจจะสั้นหรือยาวแตกต่างกันออกไป บางครั้งเราอาจจะได้ยินไม่ชัดจนเกิดอาการไม่แน่ใจว่าที่เราได้ยินนั้นคืออะไร และต้องตอบอะไรซึ่งเรามีเวลาในการฝนคำตอบนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก่อนข้อใหม่จะเริ่มพูด หากไม่แน่ใจให้เลือกข้อที่เป็นไปได้จากความรู้สึกเราไปเลย พร้อมตั้งสมาธิสำหรับข้อใหม่ เพราะถ้ามัวยึดติดกับข้อที่แล้วคิดทบทวนถึงข้อที่น่าจะถูกก็อาจจะทำให้เสียคะแนนในข้อต่อไปได้ โดยให้จำไว้ว่า เสีย 1 คะแนนดีกว่าเสีย 2 คะแนนนั่นเอง

ทบทวนกฎแกรมมาร์ที่จำเป็น


ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่จำเป็นนั้นมีมากมายแต่ที่จำเป็นและออกข้อสอบบ่อย ๆ นั้นมีไม่กี่ข้อ คงเป็นเรื่องดีที่หากเราสามารถเก่งกฎไวยากรณ์ได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าหากเราไม่ได้เก่งทุกเรื่อง เราก็ควรเรียนรู้ที่จะจดจำในเรื่องที่จำเป็นต่อการทำข้อสอบของเรา ซึ่งหัวข้อที่ออกบ่อยๆ คือ Part of Speech, Agreement of Subject and Verbs, Present and Past Participials, Relative Clause และ Tense ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเรื่องก็จะมีกฎและหลักเกณฑ์ในการจำแตกต่างกันไป เมื่อเราลิสต์ออกมาได้แล้วว่าเรื่องที่จะออกมีอะไรบ้าง เราจะได้เริ่มต้นอ่านหนังสือเตรียมสอบได้อย่างมีทิศทางและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมั่นใจได้ว่าเราก็น่าจะกวาดคะแนนไปได้มากพอสมควรแน่นอน

4. ความเคยชินคือกุญแจ

การฝึกทำข้อสอบคือสิ่งสำคัญและเป็นตัวแปรอีกตัวหนึ่ง สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยในการทำข้อสอบ ในการฝึกฝนช่วงแรก ๆ อาจจะยังไม่จำเป็นต้องจับเวลา แต่ให้พุ่งความสนใจไปที่เนื้อหาของข้อสอบที่เป็นแก่นใจกลางสำคัญ ลองสำรวจว่ามีเรื่องไหนบ้างที่เรายังบกพร่อง หรือเข้าใจไม่มากพอ เพื่อที่เราจะได้สามารถเตรียมตัวเพิ่มในส่วนนั้นๆ และเมื่อมั่นใจมากขึ้น หรือคุ้นเคยในการทำข้อสอบระดับหนึ่งแล้ว ให้เราลองฝึกทำข้อสอบ โดยสร้างสถานการณ์เหมือนจริงที่เราจำเป็นต้องมีทั้งสมาธิ ตอบคำถามให้ถูก ในขณะที่ถูกกดดันด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัด ซึ่งทั้งหมดนี้จะยิ่งช่วยให้เราเข้าใจถึงศักยภาพของตัวเองว่าพัฒนาถึงระดับไหน และต้องเตรียมตัวอีกมากน้อยแค่ไหนทั้งในแง่ความรู้ รวมถึงการควบคุมตัวเองให้ชินกับการเจอคำถามในทุกรูปแบบนั่นเอง

5. มองหาตัวช่วยที่จะมาเสริมความแกร่ง

หากพยายามเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ ประหม่าทุกครั้งที่ต้องเริ่มทำข้อสอบ และรู้สึกว่าการพยายามคนเดียวน่าจะไม่ได้ผล การเตรียมตัวสอบ TOEIC ด้วยเรียนกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ถือเป็นอีกสิ่งที่น่าพิจารณา เพราะการมีตัวช่วยย่อมดีกว่าเสมอ และอาจารย์ที่สอนจะไม่ใช่แค่สอนสิ่งที่ต้องรู้แต่รวมถึงเทคนิคที่ควรรู้ในการตอบคำถามที่เราไม่เข้าใจได้ พร้อมพาตะลุยข้อสอบจริงไปพร้อม ๆ กัน แถมยังเหมือนว่าเรามีคนช่วยชี้จุดบอดของเราในส่วนที่มองไม่เห็นอีกด้วย

และโรงเรียนกวดวิชา XChange English ของเราก็พร้อมให้ความรู้กับผู้ที่สนใจอยากติว TOEIC เพื่อเตรียมตัวสอบทุกคน ด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นกับเนื้อหาเน้น ๆ หนังสือเรียน 4 เล่ม รวม 85 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ปูพื้นฐานให้แน่น เสริมเทคนิคพิเศษจากติวเตอร์คะแนนเต็ม ที่อัพคะแนนได้จริง พร้อมพาตะลุยโจทย์ขั้นเทพ รู้ทันทุกพาร์ท เรียกได้ว่าครบจบที่เดียวแบบไม่ต้องกังวลเสียแรงเครียดคนเดียว

ถ้าใครสนใจก็สามารถคลิกเข้าชมเว็บไซต์ได้เลยที่

วิธีเตรียมตัวสอบ TOEIC ด้วยตัวเอง ไม่มีพื้นฐานก็ได้คะแนนดี! - XChange English

FAQ – เตรียมสอบ TOEIC ด้วยตัวเอง

ทำไมต้องติวสอบ TOEIC กับ XChange English

คอร์สตอบโจทย์ทุกพื้นฐาน เริ่มตั้งแต่ปูพื้นฐาน เสริมเทคนิค จนถึงตะลุยโจทย์ อ่อนภาษาก็เรียนเข้าใจ

สถาบัน XChange English มีแบบทดสอบ TOEIC ให้ลองทำไหม

มีแบบทดสอบ TOEIC เสมือนจริง โดยผู้เรียนสามารถเข้าไปทดลองทำได้ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ที่ https://xchangeenglish.com/simulation/

CONTACT US!