ปัจจุบันนี้ ความต้องการที่จะย้ายไปต่างประเทศมีมากขึ้นทุกวัน แล้วจะย้ายไปประเทศไหนดี? ก็กลายมาเป็นคำถามยอดฮิตของใครหลายๆ คนเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะย้ายไปเพื่อมีคุณภาพชีวิตที่ดี หรือเพื่อการเรียน การทำงาน หรือหาประสบการณ์ และความท้าทายใหม่ๆ การย้ายประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว
บทความนี้ได้รวบรวมประเทศที่น่าอยู่มากที่สุดในโลกปี 2023 ที่ได้รับการจัดอันดับโดย US News & World Report เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจมาให้แล้ว ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยว่ามีประเทศไหนที่น่าสนใจ และน่าย้ายไปอยู่บ้าง
1. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ติดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุด ประเทศนี้มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และมีธรรมชาติที่สวยงาม อากาศดี มลพิษต่ำ มีชื่อเสียงในเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะที่ดีมากในระดับต้นๆ ของโลกเลย นอกจากนี้ ยังเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ และมีความปลอดภัยในการใช้ชีวิตสูงอีกด้วย
ทั้งนี้ยังมีระบบการศึกษาที่ดี และมีเศรษฐกิจที่ได้รับแรงหนุนจากรัฐบาล ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ของประชาชนดีขึ้นด้วย รวมไปถึงเรื่องระบบประกันสุขภาพ ที่รัฐบาลลงทุนเงินเกือบ 3% ของ GDP ประเทศเพื่อระบบประกันสุขภาพ การศึกษา และระบบเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ด้วยส่วนนี้จึงถือเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจสุดๆ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาอยากจะย้ายไปประเทศนี้
- เมืองหลวง : กรุงเบิร์น (Bern)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 83,598 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 808 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 8.77 ล้านคน
- พื้นที่ : 41,285 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาราชการมี 4 ภาษา คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลียน และโรมานช์
2. แคนาดา (Canada)
แคนาดา (Canada) โดดเด่นในเรื่องที่เที่ยวแนวธรรมชาติ มีกฎหมายที่อนุญาตให้เพศเดียวกันสมรสกันได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมกันระหว่างเพศมากเลยทีเดียว รวมไปถึงเรื่องสีผิว ที่ไม่มีปัญหาระหว่างคนสีผิวต่างกันด้วย ซึ่งทุกคนยึดมั่นในความเสมอภาค และการเคารพต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
มีระบบการศึกษาค่อนข้างดี นักเรียนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง และเพียงพอ รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม มีการรณรงค์เรื่องการใช้พลาสติก และที่นี่มีความหลากหลายของผู้คนสูงมาก แต่ไม่มีการทะเลาะหรือแบ่งแยกเป็นกลุ่ม สำหรับใครที่ตั้งคำถามว่าย้ายไปประเทศไหนดี? ประเทศแคนาดานี้ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจมากๆ เลย
- เมืองหลวง : กรุงออตตาวา (Ottawa)
- ภูมิภาค : ทวีปอเมริกาเหนือ
- GDP ต่อหัว : 58,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 2.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 38.9 ล้านคน
- พื้นที่ : 9,976,140 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส
3. สวีเดน (Sweden)
สวีเดน (Sweden) มีป่าไม้ที่สมบูรณ์ อุดมไปด้วยแหล่งธรรมชาติ รัฐบาลส่งเสริมเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อเอื้อต่อการเดินทางของประชาชน มีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน มีบ้านเมืองที่สะอาด เพราะมีการบริหารจัดการขยะที่ดี มีปัญหาการคอร์รัปชันต่ำ และขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่เหมาะแก่การทำธุรกิจเป็นอันดับที่ 4 ของโลกอีกด้วย
สวีเดนเป็นประเทศที่เจริญ มีความสงบ มีความปลอดภัยสูง และมีสวัสดิการดีมากสำหรับเด็กทารกไปจนถึงผู้สูงอายุ ระบบการศึกษาทั้งภาครัฐ และเอกชนก็ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเท่าเทียม และมีระบบบำนาญที่ครอบคลุมประชากรถึง 100% เลยทีเดียว
- เมืองหลวง : กรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 64,578 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 586 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 10.5 ล้านคน
- พื้นที่ : 450,295 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาสวีดิช
4. ออสเตรเลีย (Australia)
ออสเตรเลีย (Australia) มีภูมิประเทศที่สวยงาม เป็นประเทศที่เปิดกว้าง ผู้คนเป็นมิตร เป็นกันเอง และเปิดรับชาวต่างชาติ ไม่มีปัญหาในเรื่องของความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดดเด่น และได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพสูงในหลายๆ เรื่องเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
มีระบบการศึกษาที่ยอดเยี่ยม มาตรฐานสูง เน้นกระตุ้นให้ผู้เรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ให้อิสระผู้เรียนในการแสดงความคิดเห็น ใครที่อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ออสเตรเลียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศในตัวเลือกที่เหมาะกับสายท่องเที่ยว ชอบออกเดินทาง เพราะที่นี่มีกิจกรรมที่จะสามารถเก็บประสบการณ์ผ่านนอกห้องเรียนข้างนอกได้อีกด้วย
- เมืองหลวง : แคนเบอร์รา (Canberra)
- ภูมิภาค : ทวีปออสเตรเลีย
- GDP ต่อหัว : 62,625 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 1.68 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 26 ล้านคน
- พื้นที่ : 7,688,000 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาอังกฤษ
5. สหรัฐอเมริกา (United State of America)
สหรัฐอเมริกา (United State of America) มีความหลากหลายของภูมิประเทศ มีธรรมชาติที่สวยงาม มีพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมากมาย เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่ามีเสรีภาพในการให้ผู้คนที่มีความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมมาใช้ชีวิตที่นี่ได้ ผู้คนมีอิสระทางความคิดที่เท่าเทียมกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
มีระบบการศึกษาที่ดี เหมาะสำหรับการศึกษาต่อ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ หากใครที่อยากจะมาใช้ชีวิตที่อเมริกาก็ถือว่ามีโอกาสสูงมาก เพราะที่นี่เปิดกว้างสำหรับผู้คนที่หลากหลาย ถ้าหากมีคุณสมบัติตรงตามที่อเมริกากำหนดไว้ ก็สามารถยื่นเรื่องขอเป็นพลเมือง เพื่อรับสิทธิ และสวัสดิการต่างๆ ได้เลย
- เมืองหลวง : กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C.)
- ภูมิภาค : ทวีปอเมริกาเหนือ
- GDP ต่อหัว : 76,399 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 25.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 333 ล้านคน
- พื้นที่ : 22,063,997 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาอังกฤษ
6. ญี่ปุ่น (Japan)
ญี่ปุ่น (Japan) มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย และบรรยากาศที่ดี เป็นประเทศที่มีระเบียบวินัยกับทุกเรื่อง ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการเกิดอาชญากรรมน้อยมาก และมีความปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งคนประเทศนี้มีอัธยาศัยที่ดี โดดเด่นเรื่องการบริการที่สุภาพ และนอบน้อม
มีมาตรฐานทางด้านการศึกษาที่ดี มีความทันสมัยในเรื่องของเทคโนโลยี และนอกจากจะมีบ้านเมืองที่สะอาดแล้ว รถไฟ รถโดยสาร ห้องน้ำสาธารณะ อาหารการกินก็สะอาดเช่นกัน ถ้าหากได้ลองใช้ชีวิตที่นี่แล้ว จะได้พบกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่มีความน่าสนใจ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากทีเดียว
- เมืองหลวง : กรุงโตเกียว (Tokyo)
- ภูมิภาค : ทวีปเอเชีย
- GDP ต่อหัว : 45,573 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 4.23 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 125 ล้านคน
- พื้นที่ : 378,000 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาญี่ปุ่น
7. เยอรมนี (Germany)
เยอรมนี (Germany) เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเศรษฐกิจ การเดินทางที่สะดวก และการคมนาคมขนส่งที่ครบครัน อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องศิลปะวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ มีพิพิธภัณฑ์ และปราสาทสวยๆ มีธรรมชาติที่น่าไปสัมผัส มีเอกลักษณ์ในเรื่องของประเพณี และอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย
สวัสดิการของประชากรที่นี่ดีมาก เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง บ้านเมืองเงียบสงบ มีค่าครองชีพไม่ได้สูงมากอย่างที่หลายๆ คนคิดไว้ ด้วยภาพรวมในด้านโอกาสทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต ความปลอดภัย สวัสดิการทางสังคม การบริหารจัดการ และรายได้นั้นทำให้หลายๆ คนอยากย้ายประเทศมาที่นี่มากเลยทีเดียว
- เมืองหลวง : กรุงเบอร์ลิน (Berlin)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 63,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 4.07 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 84.1 ล้านคน
- พื้นที่ : 357,592 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาเยอรมัน
8. นิวซีแลนด์ (New Zealand)
นิวซีแลนด์ (New Zealand) เป็นประเทศที่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวมีครบครัน ทั้งแม่น้ำ ชายหาด ภูเขา โดดเด่น และมีชื่อเสียงในด้านผู้คนที่เป็นมิตร ชอบช่วยเหลือ ใจดี และมีเมตตา อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องศูนย์รวมกิจกรรมของเหล่านักผจญภัย ที่มีทั้งการดิ่งพสุธา บันจี้จัมพ์ กระโดดร่ม และอื่นๆ อีกมากมาย
คุณภาพชีวิตของประชากรที่นี่นับว่ามั่นคง มีการศึกษาที่ดี และมีคุณภาพ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เลือกเรียนตามที่ตนเองถนัด และทุกมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์นั้นติด TOP 3% ของโลกทั้งหมด จึงเป็นปัจจัยหลักๆ ที่นิวซีแลนด์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่รู้จะย้ายไปประเทศไหนดีเพื่อไปเรียนต่อนั่นเอง
- เมืองหลวง : เวลลิงตัน (Wellington)
- ภูมิภาค : ทวีปโอเชียเนีย
- GDP ต่อหัว : 51,967 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 247 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 5.12 ล้านคน
- พื้นที่ : 268,021 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาอังกฤษ
9. สหราชอาณาจักร (United Kingdom)
สหราชอาณาจักร (United Kingdom) มีความเชื่อที่หลากหลาย และเปิดกว้างสำหรับทุกศาสนา มีระบบขนส่งที่สะดวก ไม่ว่าจะอยู่ในชนบท หรือในตัวเมืองก็สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว โดยขึ้นชื่อในเรื่องของผลงานด้านการวิจัย และวิทยาศาสตร์อีกด้วย
ทุกคนในประเทศนี้จะเคารพคนต่างศาสนา สัญชาติ และเชื้อชาติ ปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม อีกทั้งประเทศนี้ยังโดดเด่น และมีชื่อเสียงในด้านมหาลัย ที่มีมาตรฐานการศึกษาเป็นที่ยอมรับ และค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะย้ายไปประเทศไหนดีเพื่อเรียนต่อ ก็เก็บประเทศนี้ไว้พิจารณาได้เลย
- เมืองหลวง : เมืองลอนดอน (London)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 54,603 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 3.07 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 67 ล้านคน
- พื้นที่ : 209,331 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาอังกฤษ
10. เนเธอร์แลนด์ (Netherland)
เนเธอร์แลนด์ (Netherland) ไม่ได้มีแค่เพียงธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องสถาปัตยกรรมของสิ่งปลูกสร้างที่มีเอกลักษณ์อีกด้วย มีบ้านเมืองที่สะอาด และสงบเรียบร้อย อีกทั้งรัฐบาลยังสนับสนุนให้ใช้รถไฟฟ้า เพื่อลดมลพิษทางอากาศ และเป็นศูนย์กลางของรถไฟที่สามารถเดินทางไปประเทศอื่นๆ ในยุโรปได้อีกมากมาย
เนเธอร์แลนด์ติดอันดับต้นๆ ในเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด มีการคมนาคมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้คนในประเทศนี้ให้สิทธิ และเสรีภาพในการแสดงความคิด อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก จึงเป็นประเทศที่น่าย้ายมาอยู่ไม่แพ้ประเทศอื่นๆ เลย
- เมืองหลวง : นครอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 69,577 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 991 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 17.7 ล้านคน
- พื้นที่ : 41,850 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาดัตช์
11. นอร์เวย์ (Norway)
นอร์เวย์ (Norway) เป็นประเทศที่โดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวที่เน้นความงามของธรรมชาติ อุดมไปด้วยป่าไม้ ต้นไม้ ภูเขา และธารน้ำแข็ง สามารถมาเที่ยวชมธรรมชาติได้ทุกเมืองเลย ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องปลาแซลมอน เพราะมีคุณภาพ และผู้คนนิยมบริโภคมากที่สุด
รัฐบาลประเทศนี้ให้การสนับสนุนในหลายๆ เรื่อง เช่น ความอิสระ การศึกษา สวัสดิการ และการรักษาพยาบาล รวมถึงเงินรายได้ของประชาชนอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ติดอันดับในเรื่องของความปลอดภัย และระบบการขนส่งที่ดี รับรองว่าถ้าได้ย้ายมาอยู่ที่นอร์เวย์ คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างแน่นอน
- เมืองหลวง : กรุงออสโล (Oslo)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 81,807.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 434.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 5 ล้านคน
- พื้นที่ : 385,199 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษานอร์เวย์
12. ฝรั่งเศส (France)
ฝรั่งเศส (France) มีชื่อเสียงในเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และมีมรดกอันล้ำค่ามากมาย โดดเด่นในเรื่องความงามของพิพิธภัณฑ์ ปราสาท และวิหาร สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างต่างๆ เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งทะเล ป่าไม้ และภูเขา
มีระบบสวัสดิการด้านสุขภาพที่ดี และเป็นประเทศที่เคารพในความเท่าเทียม ไม่มีการเหยียดเพศ หรือความยากจนต่างๆ โดยทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ไม่ว่าจะแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และภาษา หากต้องการจะย้ายมาอยู่ที่ประเทศนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องความเหลื่อมล้ำเลย
- เมืองหลวง : ปารีส (Paris)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 38,476.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 2,582.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 67 ล้านคน
- พื้นที่ : 675,417 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาฝรั่งเศส
13. เดนมาร์ก (Denmark)
เดนมาร์ก (Denmark) โดดเด่นเรื่องระบบขนส่งที่มีการเชื่อมต่อกันทุกเมือง สามารถเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ได้อย่างสะดวก มีความปลอดภัยสูง เพราะมีกล้องวงจรติดอยู่ทั่วเมือง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของผลงานศิลปะร่วมสมัย และงานสถาปัตยกรรมต่างๆ
รัฐบาลให้บริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง สนับสนุนในเรื่องค่าใช้จ่ายดูแลเด็ก และผู้ที่มีรายได้น้อย ผู้คนส่วนใหญ่ในเดนมาร์กทำงานตามที่ได้รับค่าแรงอย่างเคร่งครัด และจะไม่ทำงานเกินกว่านั้น เรียกได้ว่าทำงานแบบตามตาราง และไม่หักโหม อีกทั้งยังได้เงินเดือนดีอีกด้วย
- เมืองหลวง : โคเปนเฮเกน (Copenhagen)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 60,595.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 351.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 6 ล้านคน
- พื้นที่ : 43,094 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาเดนิช
14. ฟินแลนด์ (Finland)
ฟินแลนด์ (Finland) มีโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่เจริญและทันสมัย โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยี ที่มีความก้าวหน้า โดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว เพราะมีสถานที่สำหรับชมแสงเหนือที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องทัศนียภาพของเนินเขาหิมะ ที่มีความงดงามอีกด้วย
รัฐบาลมีเสถียรภาพ มีการคอร์รัปชันที่น้อย มีการบริหารประเทศที่มีคุณภาพและมั่นคง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน เป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่สูง มีเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมที่ล้ำสมัยอีกด้วย
- เมืองหลวง : เฮลซิงกิ (Helsinki)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 49,334 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 275.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 5.5 ล้านคน
- พื้นที่ : 338,455 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาฟินแลนด์ และสวีเดน
15. ไอร์แลนด์ (Ireland)
ไอร์แลนด์ (Ireland) เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย เพราะมีความปลอดภัยสูง มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดดเด่นในเรื่องของประวัติศาสตร์ และมีมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมมากมาย ซึ่งมีความน่าสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ ยังโดดเด่นเรื่องทิวทัศน์ ที่มีความสวยงาม บรรยากาศดี เหมาะแก่การถ่ายภาพอีกด้วย
มีมาตรฐานการศึกษาที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่สามารถสร้างบุคลากรได้อย่างมีคุณภาพ ค่าเล่าเรียนมีราคาไม่สูงมาก ซึ่งสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ อีกทั้งนักเรียนที่นี่ยังให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และเป็นกันเองสุดๆ เพราะผู้คนเมืองนี้ปลูกฝังให้เห็นความสำคัญของมิตรภาพ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะย้ายไปประเทศไหนดี ไอร์แลนด์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศสุดท้ายที่น่าไปมากๆ เลย
- เมืองหลวง : ดับลิน (Dublin)
- ภูมิภาค : ทวีปยุโรป
- GDP ต่อหัว : 77,449.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
- GDP รวม : 375.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ประชากร : 5 ล้านคน
- พื้นที่ : 70,282 ตารางกิโลเมตร
- ภาษา : ภาษาอังกฤษ และภาษาไอริช
สรุป
จากที่ได้นำเสนอภาพรวมของประเทศต่างๆ ไปแล้ว คงจะตอบคำถามที่ว่าย้ายไปประเทศไหนดีได้แล้ว หรือสามารถเป็นทางเลือกที่ดี และเป็นข้อมูลในการประกอบการพิจารณาการตัดสินใจสำหรับใครหลายๆ คน เพื่อไปเรียนต่อ ไปทำงาน ย้ายที่อยู่อาศัย หรือไปหาประสบการณ์ และความท้าทายใหม่ๆ สำหรับใครที่สนใจอยากฝึกภาษาเพื่อสอบวัดระดับ เพื่อใช้ในการเรียนต่อ หรือทำงาน เช่น TOEIC, TOEFL และอื่นๆ ขอแนะนำ XChange ที่ประกอบไปด้วยหลักสูตรต่างๆ ไม่ว่าจะใช้เพื่อสอบเข้า หรือติวเข้ม ที่มีการสอนโดยผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เพื่อที่จะการันตีได้ว่าผู้ที่เข้าไปเรียนจะได้ความรู้ภาษาอย่างเต็มที่