เตรียมตัวสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ

รวมคําถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ ตอบยังไง ให้โดนใจและได้งาน

การตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ เมื่อได้ฟังแล้วหลายๆ คนมักจะหวั่นกลัว กังวลว่าจะทำไม่ได้ จนสูญเสียความมั่นใจและถอดใจไปเสียก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดจะเกิดขึ้น แต่ความจริงแล้วนั้น สิ่งที่จะแก้ปัญหาให้ไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือตื่นเต้นน้อยลงนั่นคือ “การเตรียมตัว” 

เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์จริง ยิ่งเตรียมตัวฝึกซ้อมมากเท่าไร ยิ่งสามารถช่วยลดความประหม่าได้เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมคำตอบไว้ก่อนล่วงหน้าด้วย 

ดังนั้นแล้วเพื่อให้ทุกคนได้ฝึกฝนการสัมภาษณ์ เสริมสร้างความมั่นใจและความคุ้นชินให้กับตนเอง ทางบทความจึงได้รวบรวมคำถามสุดฮิตที่มักจะถูกถามเมื่อสัมภาษณ์งานจำนวน 15 ข้อมาฝากกัน

1. Tell me a little bit about yourself

1. Tell me a little bit about yourself

คำถามแรกเรียกได้ว่าคลาสสิกมากนั่นก็คือ Tell me a little bit about yourself ซึ่งแปลได้ว่า บอกอะไรก็ได้คร่าวๆ เกี่ยวกับตัวคุณให้พวกเราทราบ 

ซึ่งวิธีการตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษข้อนี้มีมากมาย แต่ถ้าจะให้ตรงประเด็นก็ควรบอกข้อมูลที่สื่อถึงตัวเรามากที่สุด หากมีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานก็ควรพรีเซนต์ตัวเองออกไปให้ผู้สัมภาษณ์ได้ทราบ

ตัวอย่างคำตอบ 

  • My name is…(ชื่อ)…
  • I graduated from…(ชื่อสถาบัน)…
  • I have been…(อาชีพ)… for…(ระยะเวลา)…
2. How did you hear about this position?

2. How did you hear about this position?

คำถามสัมภาษณ์งานข้อสองที่บทความจะพามาเก็งคำตอบเพื่อฝึกฝนคือ How did you hear about this position? ซึ่งหมายความว่า คุณรู้จักตำแหน่งนี้ได้อย่างไร โดยคุณสามารถตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษข้อนี้ว่าได้ยินหรือรู้จักตำแหน่งนี้มาจากที่ไหน เช่น เว็บไซต์ที่ประกาศรับสมัครงาน เพื่อนแนะนำ เป็นต้น 

ตัวอย่างคำตอบ 

  • I found out about this position from the company’s website. (ฉันทราบเกี่ยวกับตำแหน่งนี้จากเว็บไซต์ของบริษัท)
  • My friend told me about this position. (เพื่อนของฉันบอกให้ทราบเกี่ยวกับตำแหน่งนี้)
  • I saw this position from a job announcement. (ฉันเห็นตำแหน่งนี้จากการประกาศรับสมัครงาน)
3. Could you tell me about your career?

3. Could you tell me about your career?

คำถามต่อมาคือ Could you tell me about your career? แปลว่า คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับอาชีพของคุณได้ไหม โดยคำถามนี้จะเจาะลึกลงไปมากกว่าการแนะนำตัวเอง เป็นการเล่าถึงรายละเอียดการทำงานที่ผ่านมา ประสบการณ์ทำงานผ่านอะไรมาบ้าง 

โดยผู้เข้ารับการสัมภาษณ์งานควรตอบด้วยความมั่นใจอย่างตรงไปตรงมา ไม่โกหกหรือปลอมประวัติ เนื่องจากหากถูกจับได้จะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของตัวคุณเอง

ตัวอย่างคำตอบ 

  • I’m responsible for…(หน้าที่ที่รับผิดชอบ)…
  • My position is related to…(งานที่เกี่ยวข้อง)…
  • …(หน้าที่ที่รับผิดชอบ)…is part of my job title.
4. Why are you interested in this position?

4. Why are you interested in this position?

คำถามที่สี่คือ Why are you interested in this position? โดยมีความหมายว่า ทำไมคุณถึงสนใจงานตำแหน่งนี้ ซึ่งคำตอบจะเป็นตัวชี้วัดถึงศักยภาพและทัศนคติการทำงาน โดยคุณอาจจะพูดถึงการเคยมีประสบการณ์การทำงานที่มีลักษณะคล้ายๆ กับตำแหน่งนี้และอยากใช้ความรู้ความสามารถ เพื่อช่วยพัฒนางานของบริษัทให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เป็นต้น

ตัวอย่างคำตอบ 

  • Because this position is very challenging for me to make a good performance. (เพราะตำแหน่งนี้เป็นความท้าทายสำหรับฉันที่จะทำให้ผลงานออกมาดี)
  • I’m interested in this position because I think it will enhance my skills and advance my career paths. (ฉันสนใจตำแหน่งนี้เพราะคิดว่ามันจะเพิ่มพูนทักษะและความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพของฉัน)
  • From my work experiences, knowledge can be applied to this position, so I decided to come here. (จากประสบการณ์ทำงานของฉัน ฉันสามารถที่จะนำความรู้มาปรับใช้กับตำแหน่งนี้ได้ ฉันจึงตัดสินใจมาที่นี้)
5. What are your strengths?

5. What are your strengths?

คำถามสุดฮิตข้อที่ห้าคือ What are your strengths? อะไรคือจุดเด่น / จุดแข็งของคุณ ซึ่งเป็นการตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษแบบปลายเปิด เปิดโอกาสให้ตอบได้อย่างหลากหลาย ผู้สมัครงานจึงต้องพยายามพรีเซนต์ตัวเองให้ได้มากที่สุด

ตัวอย่างคำตอบ 

  • My strength is…(จุดแข็ง / จุดเด่น)…
  • I am a …(ลักษณะที่เป็นจุดแข็ง)… person which I consider this to be my strength.
  • I have…(ความสามารถที่มี) skills that will help to complete the assigned tasks.
6. What are your weaknesses?

6. What are your weaknesses?

มีคำถามถึงจุดเด่นของตนเองแล้วย่อมต้องมีคำถามที่ว่า What are your weaknesses? อะไรคือจุดด้อย / จุดอ่อนของคุณอย่างแน่นอน ซึ่งการตอบก็ตอบได้อย่างหลากหลายแต่ควรพูดเสริมให้ดูดีในตอนท้าย เช่น จุดอ่อนเป็นคนทำงานช้า แต่ในการทำงานช้าของดิฉันนั้นก็สามารถเป็นข้อดีได้เพราะถึงแม้จะทำงานช้าแต่มีความรอบคอบ ไม่สักแต่จะทำงานให้เสร็จไปเฉยๆ ซึ่งนี่อาจกลายเป็นข้อได้เปรียบเมื่อคุณสมัครงานในตำแหน่งงานที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เป็นต้น

ตัวอย่างคำตอบ 

  • My weakness is…(จุดอ่อน)…
  • My weakness is being a slow worker but in my slow work, it can be an advantage because even though I work slowly, but with carefulness. not only to complete the task. (จุดอ่อนของฉันคือทำงานช้า แต่นั่นก็สามารถเป็นข้อดีได้เพราะถึงแม้ฉันจะทำงานช้าแต่ก็มีความละเอียดรอบคอบ ไม่เพียงทำงานให้เสร็จไปเท่านั้น)
  • Foreign languages are my weakness. You may see that I can respond. But I’m not that good. On the other hand, my weakness pushed me to try to read more books and apply for additional foreign language courses. (ภาษาต่างประเทศถือเป็นจุดอ่อนของฉัน คุณอาจเห็นว่าฉันสามารถพูดตอบโต้กลับได้ แต่ฉันก็ไม่เก่งถึงขั้นนั้น ในทางกลับกันจุดอ่อนของฉันก็ช่วยผลักดันให้ฉันพยายามอ่านหนังสือให้มากขึ้นและสมัครเรียนภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม)
7. Where do you see yourself in 5 years? 

7. Where do you see yourself in 5 years? 

คำถามสัมภาษณ์งานข้อต่อมาคือ Where do you see yourself in 5 years? หมายความว่าคุณคิดว่าตัวเองจะเป็นอย่างไรในอีก 5 ปีข้างหน้า คำถามนี้อาจดูง่ายแต่จริงๆ แล้วก็มีความซับซ้อนอยู่เพราะเป็นอนาคตที่ยังไม่เกิดและไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นไหม 

ดังนั้นจึงควรตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษข้อนี้โดยไตร่ตรองให้รอบคอบ เช่น คุณอาจจะมองว่าคุณได้งานตำแหน่งที่ถูกสัมภาษณ์และคิดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าจะได้ขึ้นเป็นระดับหัวหน้างาน โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น

ตัวอย่างคำตอบ 

  • In the next 5 years, I believe that I will…(สิ่งที่คุณคิดว่าจะเป็น)…
  • By then I will…(สิ่งที่คุณคิดว่าจะเป็น)…
  • I will continue to train myself to become a professional person. And still dedicated to the position that will advance more than now. (ฉันจะฝึกฝนตัวเองต่อไป เพื่อให้กลายเป็นมืออาชีพและยังคงทุ่มเทกับตำแหน่งหน้าที่ที่จะก้าวหน้าไปกว่านี้)
8. Why do you want to work here?

8. Why do you want to work here?

คำถามต่อมาคือ Why do you want to work here? ซึ่งแปลว่า ทำไมคุณถึงต้องการทำงานที่บริษัทนี้ คำถามประเภทนี้จะทดสอบว่าคุณศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทมาบ้างหรือไม่ 

ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์ก็ต้องบอกถึงเหตุผลที่ต้องการทำงานกับบริษัท เช่น บริษัทมีภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดีจึงอยากร่วมงานด้วย บริษัทนี้จะช่วยพัฒนาให้เราดีขึ้นหรือเก่งขึ้นอย่างไร หรือคุณมีความประทับใจอะไรเกี่ยวกับองค์กรจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ เป็นต้น โดยคำตอบทั้งหมดก็เพื่อสนับสนุนให้บริษัทเห็นถึงความต้องการที่จะร่วมงานอย่างแน่วแน่

ตัวอย่างคำตอบ 

  • Because your company has an outstanding reputation in…(ชื่อเสียงด้านต่างๆ ที่บริษัทมี)… That’s the reason why I want to work with you.
  • Because your company has modern technology, which I believe is the main reason for the success of works. (เพราะบริษัทของคุณมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้งานประสบความสำเร็จได้)
  • I believe that I will achieve my goals if I join a company with a good reputation and have sufficient resources: capital, skilled personnel and full technology, which you are a company with those qualities. (ฉันเชื่อว่าฉันจะบรรลุเป้าหมายของตนเองหากเข้าทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงที่ดีและมีทรัพยากรเพียงพอ ทั้งเงินทุน บุคลากรที่มีทักษะ และเทคโนโลยีที่ครบครัน ซึ่งคุณเป็นบริษัทที่มีคุณสมบัติดังกล่าว)
9. Why did you leave your last job?

9. Why did you leave your last job?

คำถามสัมภาษณ์งานข้อที่เก้าคือ Why did you leave your last job? ทำไมคุณถึงลาออกจากงานที่บริษัทเก่า ซึ่งควรตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษข้อนี้อย่างชัดเจนว่าการลาออกจากที่เก่านั้นไม่ได้ลาออกแบบไร้เหตุผล แต่ก็ไม่ควรไปว่าร้ายให้กับบริษัทเก่าเช่นกัน 

โดยอาจใช้คำตอบประมาณว่า ลาออกจากที่ทำงานเก่าเพราะต้องการพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นและไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางที่ทำงานเก่ายังไม่มีตำแหน่งนี้มารองรับ จึงเลือกที่จะมาสมัครงานที่บริษัทนี้ เพื่อต่อยอดพัฒนาเปิดเส้นทางในสายอาชีพให้ไปได้ไกลมากกว่าเดิม เป็นต้น

ตัวอย่างคำตอบ 

  • I quit my last job because…(เหตุผลที่ลาออก)…
  • Because I want to challenge myself to keep improving. But the old company still doesn’t have a position to support my needs. So, I decided to leave a job. (เพราะฉันอยากท้าทายตัวเองให้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่บริษัทเก่ายังไม่มีตำแหน่งมารองรับความต้องการของฉัน ดังนั้นจึงตัดสินใจออกจากงาน)
  • I would like to have more career advancement and more financial freedom. (ฉันอยากมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและมีอิสระทางการเงินมากขึ้น)
10. What is your management style? 

10. What is your management style? 

มาถึงคำถามข้อที่สิบกันแล้ว ซึ่งนั่นก็คือคำถาม What is your management style? หมายความว่า สไตล์การจัดการงานของคุณเป็นอย่างไร โดยคำถามนี้จะวัดว่าคุณจะแสดงวิธีการทำงาน วิธีการแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านคำตอบอย่างไร

ตัวอย่างคำตอบ 

  • I have a way of working like…(วิธีการทำงาน)…
  • When there is a problem with assigned tasks, I will make corrections and coordinate with my colleagues as soon as possible to make that problem go away. (เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย ฉันจะแก้ไขและประสานงานกับเพื่อนร่วมงานโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ปัญหาหายไป)
  • When I’m assigned multiple tasks at the same time, I will prioritize tasks. Determine the time of tasks that need to be completed first to avoid delays affecting other tasks. (เมื่อฉันได้รับมอบหมายหลายงานในเวลาเดียวกัน ฉันจะจัดลำดับความสำคัญของงาน กำหนดเวลาของงานที่ต้องทำให้เสร็จก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่จะส่งผลกระทบต่องานอื่นๆ)
11. Do you work well under pressure? 

11. Do you work well under pressure? 

คำถามข้อต่อมาคือ Do you work well under pressure? แปลว่า คุณทำงานได้ดีภายใต้แรงกดดันหรือไม่ คำถามข้อนี้คุณก็ต้องพรีเซนต์ตนเองว่าถึงแม้งานจะมีความกดดัน แต่ก็จะพยายามทำงานต่อให้เสร็จสมบูรณ์ภายใต้แรงกดดันให้ได้

ตัวอย่างคำตอบ 

  • Yes, I can work under pressure. Because the old workplace had a working environment that had to endure pressure. So, I’m confident that I’ll get through it. (ฉันสามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้ เนื่องจากที่ทำงานเก่ามีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ต้องทนกับแรงกดดัน ดังนั้นฉันมั่นใจว่าฉันจะผ่านมันไปได้)
  • I can’t say if I work well under pressure. But I will try to make you see through the results that appear. (ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าทำงานภายใต้ความกดดันได้ดีหรือไม่ แต่ฉันจะพยายามทำให้คุณเห็นผ่านผลงานที่ปรากฎ)
  • Although I don’t really like working under pressure. But when I have to, I will do my best. (แม้ว่าฉันจะไม่ชอบทำงานภายใต้ความกดดันก็ตาม แต่เมื่อฉันต้องทำ ฉันก็จะทำให้ดีที่สุด)
12. How would your best friend describe you?

12. How would your best friend describe you?

การตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษข้อนี้จะแสดงให้เห็นถึงมุมมองของคนอื่นที่มีต่อคุณ นั่นคือคำถามที่ว่า How would your best friend describe you? หมายความว่า เพื่อนสนิทของคุณอธิบายเกี่ยวกับคุณว่าอย่างไรบ้าง 

ดังนั้นผู้ถูกสัมภาษณ์ควรเลือกข้อความที่อธิบายถึงจุดเด่นของตนเองผ่านสายตาของผู้อื่น และที่ต้องเป็นเพื่อนสนิทเพราะจะมีความคุ้นเคยและรู้ถึงนิสัยใจคอกันอย่างแท้จริง

ตัวอย่างคำตอบ 

  • My close friends often tell me that I’m a …(ลักษณะนิสัย)… person.
  • My best friends always tell me that I’m the kind of person who…(ลักษณะนิสัย)…
  • When problems arise, my colleague at a former company told me that I would always volunteer to help, and he was grateful for my help. (เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เพื่อนร่วมงานที่บริษัทเก่าบอกว่าฉันมักจะอาสาช่วยเหลืออยู่เสมอ และเขาก็รู้สึกซาบซึ้งใจ)
13. Do you have any questions for me? 

13. Do you have any questions for me? 

Do you have any questions for me? คุณมีคำถามที่จะถามบริษัทไหม ดูเผินๆ เหมือนคำถามเรียบง่ายทั่วไป แต่หากคุณแสดงให้เห็นถึงความสงสัยใคร่รู้และกระตือรือร้นที่จะถามก็จะเป็นข้อดีไม่น้อย แต่หากไม่มีก็ไม่ได้ถือว่าเสียหายอะไร

ตัวอย่างคำตอบ 

  • Do you have any advice for me about working in this position? (คุณมีคำแนะนำสำหรับการทำงานในตำแหน่งนี้ให้กับฉันไหม)
  • If I am selected to work in this position Should I look for information on a specific subject? (หากฉันได้รับเลือกให้ทำงานในตำแหน่งนี้ ฉันควรหาข้อมูลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่)
  • No, I do not have any questions. (ฉันไม่มีคำถามใดๆ)
14. What are your salary expectations?

14. What are your salary expectations?

คำถามยอดนิยมอีกหนึ่งคำถามคือ What are your salary expectations? แปลว่า คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไร โดยคำตอบควรเป็นตัวเลขที่ชัดเจน สมเหตุสมผลกับความสามารถและประสบการณ์ที่มี 

หากใครยังไม่มั่นใจก็ตอบเป็นช่วงเรตเงินเดือนไปก่อน แล้วค่อยตกลงกับทางบริษัทอีกครั้งให้มีความเข้าใจตรงกัน ในบริษัทที่กำหนดเรตค่าจ้างมาอย่างชัดเจนแล้วก็อาจจะไม่มีคำถามข้อนี้

ตัวอย่างคำตอบ 

  • The expected salary is…(จำนวนเงินที่คาดหวัง)…
  • The salary that I expected is…(จำนวนเงินที่คาดหวัง)…
  • The range between …(ช่วงจำนวนเงินที่คาดหวัง)… is my expected salary
15. Why should we hire you?

15. Why should we hire you?

มาถึงคำถามสัมภาษณ์งานข้อสุดท้ายกัน กับคำถาม Why should we hire you? ทำไมบริษัทถึงต้องจ้างคุณมาทำงาน คำถามนี้อาจจะทำให้รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กันบ้างแต่ไม่ต้องกังวล แนวทางการตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษข้อนี้ก็ให้พยายามพรีเซนต์ข้อดีของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกจากห้องสัมภาษณ์ เช่น หากคุณจ้างฉันแล้วฉันจะช่วยพัฒนาองค์กรให้ดียิ่งขึ้นด้วยความรู้และประสบการณ์ที่ได้ผ่านมา เป็นต้น

ตัวอย่างคำตอบ 

  • Because I have… (ความสามารถ / จุดเด่น) …that will help you achieve your goals. เพราะฉันมี (ความสามารถ / จุดเด่น) ที่จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายได้
  • Because I will be dedicated to the work that has been assigned. (เพราะฉันจะทุ่มเทให้กับงานที่ได้รับมอบหมาย)
  • Because you can expect me to do anything. And I will do it to the best of my ability. (เพราะคุณสามารถคาดหวังให้ฉันทำอะไรก็ได้และฉันจะทำมันให้ดีที่สุด)

สรุป

นอกเหนือจากการแต่งกายและบุคลิกภาพ ที่เป็นเหมือนความประทับใจแรกแล้วนั้น การตอบคำถามสัมภาษณ์งานก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่จะแสดงให้เห็นถึงทัศนคติ อุดมการณ์ เป้าหมายในชีวิตของผู้ถูกสัมภาษณ์ได้ 

โดยจากคำถามที่ทางบทความได้นำมาให้ท่านได้อ่านก็เป็นเพียงการแนะแนวทางสำหรับการฝึกฝนเตรียมตัวตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งในสถานการณ์จริงคำถามอาจจะเหมือนหรือแตกต่างออกไปจากนี้ก็ได้ 
ดังนั้นแล้วการฝึกซ้อม การสะสมคำศัพท์ต่างๆ การหมั่นหาความรู้ให้ตนเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเรียนรู้ด้วยตนเองหรือการลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อเพิ่มทักษะในการพูดภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นไปอีกระดับ ถือได้ว่าเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ลดความตระหนก ลนลาน ตื่นเต้น สามารถตอบคำถามต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์จริง

CONTACT US!